การเลือกใช้งานอุปกรณ์ Wi-Fi การเลือกใช้งานอุปกรณ์ Wi-Fi ปัจจุบันนี้อุปกรณ์ในระบบเครือข่ายแบบไร้สายหรือ Wireless มีมากมายหลายประเภท และองค์กรภาครัฐได้ทำการอนุญาตให้บุคคลทั่วไปใช้งานได้อย่างอิสระ จึงทำให้เกิดทางเลือกในการวางระบบเครือข่ายในองค์กร บริษัทต่างๆ มากขึ้นและเนื่องด้วยความหลากหลายของอุปกรณ์ จึงเกิดความสับสนในการเลือกใช้งานว่า แบบใดเหมาะสมกับองค์กรมากที่สุด คุ้มค่าในการใช้งานหรือไม่ จึงขอทำการแบ่งระดับการใช้งานดังต่อไปนี้
ระดับเริ่มต้น: ผู้ใช้ตามบ้าน บริษัทห้างร้านขนาดเล็ก
หลายครั้งจะมีข้อสงสัยเกี่ยวกับ Wireless-N ว่า ถ้าซื้อมาใช้แล้วอินเตอร์เน็ทที่ใช้อยู่จะเร็วขึ้นหรือไม่ คำตอบคือ ไม่ เพราะความเร็วอินเตอร์เน็ทขึ้นอยู่กับผู้ใช้ที่ขอไปทางผู้ให้บริการ ไม่เกี่ยวกับความเร็วของอุปกรณ์แต่อย่างใด Wireless-N จึงเหมาะสมกับบริษัทหรือผู้ใช้งานที่ต้องการการโอนถ่ายข้อมูลด้วยความเร็ว สูงมากกว่า
ระดับกลาง: ผู้ใช้ตามบ้านที่มีกำลังซื้อ บริษัทห้างร้านขนาดกลาง องค์กรทั่วไป
ระดับสูง: บริษัทขนาดใหญ่ หรือองค์กรที่ต้องการความเร็วที่สูงขึ้น
แล้วจะเลือกอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับระยะทางอย่างไร? ในที่นี้จะกล่าวถึงในกรณีใช้กำลังส่งที่ 100mW ใช้งานภายนอกอาคารและไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆ โดยที่เครื่อง Client กำลังส่งปกติ (Laptop, Notebook, PDA, Mobile unit) สามารถใช้งานได้ตามความสามารถของเครื่อง (ส่วนใหญ่ไม่เกิน 500 เมตร) สายอากาศแบบรอบตัว (Omni-Directional) เนื่องจากสายอากาศประเภทนี้ทำการกระจายสัญญาณแบบรอบตัวซึ่งไม่ได้เน้นทิศทางใดๆ ทำให้ระยะการใช้งานโดยทั่วไปจะอยู่ที่ 2-3 กิโลเมตร (ที่อัตราขยาย 8dBi) สายอากาศแบบกึ่งทิศทาง (Dipole, Patch Panel) สายอากาศประเภทนี้จะบังคับให้สัญญาณทำการกระจายออกไปในทิศทางด้านหน้าของมันทำให้ได้ระยะทางด้านหน้าเพิ่มขึ้นประมาณ 3-5 กิโลเมตรเมื่อเทียบกับสายอากาศรอบตัวที่อัตราขยายเท่ากันและอาจจะถึง 10 กิโลเมตรที่อัตราขยายประมาณ 15dBi โดยที่จะมีสัญญาณกระจายออกทางรอบข้างที่ระยะไม่เกิน 300 เมตร สายอากาศแบบทิศทาง (Yagi, Grid, Parabolic) สายอากาศประเภทนี้จะบังคับให้สัญญาณทำการกระจายออกไปในทิศทางด้านหน้าของมันมากกว่าสายอากาศแบบกึ่งทิศทาง ซึ่งระยะทางที่แนะนำคือตั้งแต่ 10 กิโลเมตรขึ้นไป โดยที่จะมีสัญญาณกระจายออกทางรอบข้างที่ระยะไม่เกิน 100 เมตร แต่ถ้าต้องการความเร็วที่เพิ่มขึ้นในระยะทางเท่าเดิม ต้องใช้อุปกรณ์หรือสายอากาศที่มีอัตราขยายมากขึ้น ระดับสัญญาณเท่าไรจึงจะเหมาะสมในการเชื่อมต่อสัญญาณ? โดยทั่วไประดับสัญญาณที่ยอมรับได้คือ ไม่มากกว่า -70 (-70 - -90 อยู่ในระดับต่ำมาก) โดยยิ่งค่าน้อยลง ประสิทธิภาพและความเร็วก็จะเพิ่มขึ้นด้วย (-20 - -60) แต่การวัดค่าใช้งานกับเครื่อง Client จะมีปัจจัยเรื่องประสิทธิภาพของเครื่องที่ใช้ในการวัดสัญญาณด้วย เช่น เครื่องที่ใช้ Atheros หรือ Intel ซึ่งเป็นชิปประมวลผล Wi-Fi ที่มีประสิทธิภาพสูงมากกว่าเครื่องทั่วไป ทำให้การวัดค่าอาจจะไม่ตรงตามการใช้งานจริง เพราะฉะนั้นการสำรวจและวัดค่าโดยการใช้เครื่อง Client ใดๆ ให้ใช้เครื่องที่มีประสิทธิภาพทั่วๆ ไปแทน (การเชื่อมต่อแบบจุดต่อจุดระหว่างอุปกรณ์ Wi-Fi ให้คำนึงถึงเพียงค่าระดับสัญญาณเท่านั้น) อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในการเชื่อมต่อระยะไกล
|